วิธีทำให้อายุยืน

วิธีทำให้อายุยืน

           ๑.     แผ่เมตตา ปล่อยสัตว์ที่เขาจะนำไปฆ่า

           ๒.    บำเพ็ญกุศลกรรมบถ ๑๐

           ๓.     ทำบุญต่ออายุ

           ๔.     สวดมนต์สาธยาย เช่น สิริธิติ สักกัตวา นัตถิเม และอุณหัสสวิชัยสูตร เป็นต้น

           ๕.     บำเพ็ญอนิมิตตเจโตสมาธิ

           วิธีเจริญอนิมิตตเจโตสมาธิ

           ๑.     ไหว้พระ

           ๒.    ตั้งนะโม ๓ จบ

           ๓.     ไตรสรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ฯลฯ

           ๔.     เจริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

           ๕.     สมาทานพระกรรมฐาน

                  “อุกาสะ อุกาสะ ณ โอกาสบัดนี้ ข้าพเจ้าขอสมาทานเอาซึ่งพระกรรมฐาน ขอขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ และวิปัสสนาญาณ จงบังเกิดขึ้นในขันธสันดานของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะตั้งสติกำหนดไว้ที่ลมหายใจเข้าออก ลมหายใจเข้ารู้ลมหายใจออกรู้ สามหนและเจ็ดหน ร้อยหนและพันหน ด้วยความไม่ประมาทตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

           ๖.     คำอธิษฐานจิต

                  “สาธุ สาธุ ขอให้สมาธิจิตของข้าพเจ้าดับแน่นิ่งอยู่ในอนิมิตตเจโตสมาธิ เป็นเวลา ๑๕ นาที พร้อมนี้ขอให้โรคภัยไข้เจ็บที่มีอยู่เป็นอยู่ในร่างกายนี้ จงหายไป ดับไป สิ้นไป สูญไป จากขันธสันดานของข้าพเจ้า อย่าได้กลับเกิดขึ้นมาอีก และขอให้ข้าพเจ้ามีอายุยืนยาวนาน ตลอดถึงกัลป์หรือเกินกว่ากัลป์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเทอญ”

           ๗.    คำบริกรรม

                   นึกบริกรรมภาวนาว่า “จิตตัง อะนิมิตตัง” หรือ “จิตตัง นิพพานัง อะนิมิตตัง” ก็ได้ เอาสติตั้งไว้ที่ท้องพอง ท้องยุบ ภาวนาเรื่อยไปจนกว่าจะขาดความรู้สึก หรือได้เวลาอธิษฐานไว้

           หมายเหตุ ถ้านั่ง ๓๐ นาที, ๑ ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ขอให้อธิษฐานเพิ่มขึ้นตามต้องการ ขอให้เพียรภาวนาทุกวัน ถ้านั่งลำบากให้นอนเอา แล้วบริกรรมภาวนาเรื่อยไปจนกว่าจะหลับรู้สึกตัวขึ้นมาให้ภาวนาต่อไป จนกว่าจะได้เวลาที่เราอธิษฐานจิตไว้

ไสยศาสตร์ อำนาจอวิชชา

           ไสยศาสตร์ (วิชาของคนโง่) ตราบใดที่เรายังไม่บรรลุอริยมรรคอริยผลแล้ว เราก็อยู่ใต้อำนาจของมัน คือเมื่อเราทำผิดครู (ผิดสัญญา) ก็จะเป็นไปตามอำนาจของครูอาจารย์ผู้ที่สาปไว้ เช่น เป็นปอบ เป็นบ้า เป็นต้น ถ้าเราบรรลุแล้วมันอยู่ใต้อำนาจของเรา จำพวกของขลัง ของดี ของลงอาคมทั้งหลาย แต่ละครูอาจารย์ที่จัดทำขึ้น ถ้าครูอาจารย์คนไหนไม่บรรลุ จะฝันเห็นรูปสัตว์ รูปหมา ช้าง เสือ ลิง งู เป็นต้น ถ้าครูอาจารย์ผ่านแล้ว จะฝันเห็นปะขาว แม่ชี พระเณร ผู้ทรงศีลทรงธรรม เป็นต้น และลักษณะของการใส่ของ (คือเสกของเข้าตัว) คำว่า “พิษหนู” คืออำนาจของมัน ฝนกระดูก ฝนแก้วเป็นสามเหลี่ยม มีว่านกระจายเป็นตัวช่วยส่ง มีผ้าดำผ้าแดงมัด มีขี้ผึ้งหุ้ม

           ถ้าใช้เยี่ยวอูฐด้วยทำให้ถึงตายได้ ผู้จะเรียนได้ต้องเชื่อจริง ว่านกระจายไม่มีไม่สามารถใส่ได้ บุคคลประเภทนี้เวลาตายแล้วจะล่องลอยหากินข้าวดำข้าวแดง อีกพวกหนึ่งกวนเจ้าปู่ ใครเป็นกวนเจ้าปู่ ตายแล้วก็จะไปเกิดกับเจ้าปู่ มาอยู่รวมกันคนแล้วคนเล่า ใครหมดบาปมิจฉาทิฏฐิก่อนก็ไปเกิดก่อน อีกอย่างหนึ่ง ผู้ที่เรียนมนต์ปราบปอบ ถ้าตายแล้วจะ

ไปอยู่กับปอบด้วย สามารถช่วยได้ด้วยการปฏิบัติ สามารถบรรลุได้ ถ้าละมิจฉาทิฏฐิได้เมื่อใด บาปมิจฉาทิฏฐิตัวนี้ก็สิ้นไปเมื่อนั้น คือสิ้นจากมิจฉาทิฏฐินั่นเอง ส่วนมากฟากโขง (ประเทศลาว) จึงจะมี

           การป้องกัน ต้องมีวัตถุที่มีกลิ่นแรง ๆ เช่น ว่านหอม สบู่ตรานกแก้ว สามารถที่จะป้องกันได้ หรือว่าวัตถุที่เขาใส่มามันมากระทบตัวเราเดียด ๆ เราอย่าเผลอสติตบมันเข้าไป เรามองดูเสียก่อนแล้วจึงปัดหรือเป่า เท่านี้ก็ป้องกันได้ หรือจะใช้การอธิษฐานสมาธิป้องกันก็ได้ เช่น

           “สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้สมาธิจิตของข้าพเจ้าจงเป็นเกราะป้องกันตัวของข้าพเจ้า อย่าให้คุณไสยทั้งหลายทั้งปวงระคายเคืองผิวของเข้าพเจ้าได้เลย”