อัคคัปปสาทสุตตคาถา
อัคคะโต เว ปะสันนานัง อัคคัง ธัมมัง วิชานะตัง
เมื่อบุคคลรู้จักธรรมอันเลิศ เลื่อมใสแล้ว โดยความเป็นผู้รู้ธรรมอันเลิศอย่างแท้จริง
อัคเค พุทเธ ปะสันนานัง เมื่อบุคคลเลื่อมใสแล้ว ในพระพุทธเจ้า
ทักขิเนยเย อะนุตตะเร ท่านผู้รู้จักของจริงแล้ว เป็นผู้เลิศควรแก่วัตถุอันบุคคลควรให้ หาสิ่งอื่นยิ่งกว่าไม่มี
อัคเค ธัมเม ปะสันนานัง เมื่อบุคคลเลื่อมใสแล้วในพระธรรมอันเลิศ
วิราคูปะสะเม สุเข เป็นธรรมปราศไปจากเครื่องย้อม และเป็นธรรมมีความสุขสงบ
อัคเค สังเฆ ปะสันนานัง เมื่อบุคคลเลื่อมใสแล้วในหมู่พระสงฆ์
ปุญญักเขตเต อะนุตตะเร ผู้เลิศเป็นนาบุญหาเขตนาบุญอื่นยิ่งกว่าไม่มี
อัคคัส๎มิง ทานัง ทะทะตัง ทานวัตถุอันบุคคลให้แล้วในเขตอันเลิศ
อัคคัง ปุญญัง ปะวัฑฒะติ บุญกุศลอันเลิศย่อมเจริญ
อัคคัง อายุ จะ วัณโณ จะ ยะโส กิตติ สุขัง พะลัง
อายุด้วย วรรณะด้วย ผิวกายด้วย ยศถาบรรดาศักดิ์ด้วย ความสรรเสริญด้วย ความสุขกายสุขใจด้วย พละกำลังอันเลิศด้วย ย่อมเจริญ
อัคคัสสะ ทาตา เมธาวี อัคคะธัมมะสะมาหิโต
บุคคลผู้มีปัญญาตั้งอยู่แล้วในธรรมอันเลิศ ให้แล้วซึ่งทานวัตถุในเขตอันเลิศ
เทวะภูโต มะนุสโส วา ไปเกิดเป็นเทพยดา หรือไปเกิดเป็นมนุษย์
อัคคัปปัตโต ปะโมทะตีติ ย่อมถึงควมเป็นเลิศอันบันเทิงยินดีด้วยประการฉะนี้แลฯ
———————–