ญาณที่ ๒ ปัจจยปริคคหญาณ
ปัญญากำหนดพิจารณารู้เหตุรู้ปัจจัยของรูปนาม คือรู้ว่ารูปธรรมและนามธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุปัจจัย และเป็นปัจจัยแก่กันและกัน อาศัยรวมกันอยู่
อาจารย์ผู้สอบถามว่า “เวลากำหนดท้องพอง ท้องยุบกำหนดยากไหม กำหนดยากเป็นอย่างไร” อาการของญาณนี้ เป็นต้นว่า เวลาบริกรรมกำหนดว่าพอง แต่ท้องกลับยุบลงไปเวลาบริกรรมกำหนดว่ายุบ แต่ท้องกลับพองขึ้นมา และถามการเดินจงกรมด้วยว่า “กำหนดยากไหม ทันปัจจุบันหรือเปล่า” ถามดูอาการพอง อาการยุบมีกี่ระยะ ถ้าตอบมี ๒ ระยะ ให้ได้ ระยะใดระยะหนึ่งก็ให้ได้
บางครั้งไม่เห็นอาการพอง-ยุบ ต้องถึงกับเอามือไปดันไปจี้ถึงเห็นก็มี นั่งภาวนาไปๆ มือดีดผึง นั่งภาวนาไปๆ สัปหงกไปข้างหน้า ข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา สะดุ้งกระโดดไปข้างหน้า สะดุ้งหงายไปข้างหลัง เป็นต้น
โรคภัยไข้เจ็บที่หายนานแล้วกลับเกิดมาอีก นี้คือสภาวะของญาณนี้ ให้ถามว่ากำหนดได้ไหมเป็นตัวยืน ส่วนอาการอื่นเป็นเพียงตัวประกอบ ถ้าเขาทำได้แล้วให้เทศน์เรื่องเหตุปัจจัยของขันธ์ ๕ และอาการเกิดอาการดับของรูปนามทุกอย่างมีเหตุปัจจัยเป็นแดนเกิด
อาการเกิดของรูปนาม
รูปเกิดจากอวิชชา ตัณหา กรรม อาหาร และความเกิดขึ้นของรูปอย่างเดียว เช่น อยากเกิดเป็นคน เป็นตัณหา รักษาศีลเป็นกรรม แล้วก็ปรนเปรอด้วยอาหาร
เวทนาเกิดจากอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะ และความเกิดขึ้นของเวทนา อย่างเดียว
สัญญาเกิดจากอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะ และความเกิดขึ้นของสัญญา อย่างเดียว
สังขารเกิดจากอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะ และความเกิดขึ้นของสังขาร อย่างเดียว
วิญญาณเกิดจากอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะ และความเกิดขึ้นของวิญญาณอย่างเดียว
อาการดับของรูปนาม
รูปดับไปเพราะอวิชชา ตัณหา กรรม อาหารดับไป และความดับไปของรูป อย่างเดียว
เวทนาดับไปเพราะอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะดับไปและความดับไปของเวทนาอย่างเดียว
สัญญาดับไปเพราะอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะดับไปและความดับไปของสัญญาอย่างเดียว
สังขารดับไปเพราะอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะดับไปและความดับไปของสังขารอย่างเดียว
วิญญาณดับไปเพราะอวิชชา ตัณหา กรรม ผัสสะดับไปและความดับไปของวิญญาณอย่างเดียว
รวมอาการของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เกิดพร้อมกัน ๒๕ ดับพร้อมกัน ๒๕ รวมทั้งหมดเกิดดับ ๕๐ (อาการเกิดดับก็คือการเปลี่ยนแปลงของรูปนามนั่นเอง)
ผู้อยากตาย ถ้าจะตายก็ให้ความโลภ ความโกรธ ความหลงตายให้หมดเสียก่อน หรือตายไม่หมด ตายเสียครึ่งหนึ่งก็ยังดี หลวงพ่อไม่ห้าม ทำไมจึงอยากตาย ก็เพราะมันเป็นทุกข์มาก เออ…คนรู้จักทุกข์นี้เป็นผู้มีปัญญา เมื่อเราเป็นคนมีปัญญาแล้ว เราก็หาสาเหตุและวิธีแก้ให้ได้สิ
ผู้หญิงสาวมีธรรมข้อหนึ่งที่เท่าเทียมกันกับภิกษุสามเณร คือการรักษาพรหมจรรย์ของตนเองให้บริสุทธิ์ เกิดเป็นผู้หญิงนี่ดีแล้วได้รักษาธรรม สำหรับผู้ไม่อยากตาย ถ้าเจ็บปวดมากให้อธิษฐานอนิมิตตเจโต พร้อมทั้งอธิษฐานให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
ผู้ได้ญาณที่ ๒ นี้เรียกว่าจุลโสดาบัน ไม่ไปสู่อบายภูมิ ๒-๓ ชาติเป็นอย่างน้อย เมื่อไปเกิด ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ
ปัจจยปริคคหญาณ จบ