ญาณที่ ๖ ภยตูปัฏฐานญาณ
ปัญญากำหนดพิจารณาเห็นรูปนามว่าเป็นของน่ากลัว คือเมื่อพิจารณาเห็นความแตกสลายอันมีทั่วไปแก่ทุกสิ่งทุกอย่างเช่นนี้แล้ว คิดว่าสังขารทั้งปวงก็ปรากฏเป็นของน่ากลัว เพราะล้วนแต่จะต้องแตกสลายไปทั้งสิ้น
ญาณนี้บางองค์ก็เกิดชัด บางองค์ก็เกิดไม่ชัด ในญาณที่อยู่วิถีเดียวกัน ญาณใดญาณหนึ่งในวิถีเดียวกันชัด ก็ให้ได้เวลาผู้ปฏิบัติกำหนดอาการพอง-ยุบทันปัจจุบันธรรมกันดี กำหนดไปๆ อาการพอง-ยุบหายวับไป แล้วตั้งต้นกำหนดใหม่ก็หายวับไปอีก เริ่มตั้งต้นใหม่อยู่เรื่อยๆ อย่างนี้แสดงเป็นอาการของญาณที่ ๖ เวลายืน เดิน นั่ง นอน เป็นต้น ลูบไปตามร่างกายคล้ายรู้สึกเจ็บๆ เสียวๆ แล้วมีอาการขุนลุกชูชันนี้ก็ให้ได้ โดยเฉพาะพวกหมอผี พวกถือผีหาว่าผีมารบกวนก็มีถ้าขนลุกขึ้นแล้วก็เหนื่อย ถ้าเหนื่อยแสดงว่าเข้าสู้ญาณที่ ๗ แล้ว บางคนร้องไห้ แต่ไม่ใช่ร้องไห้เพราะกลัวนะ ร้องไห้เพราะคิดถึงพ่อแม่เป็นต้น ถ้าสมาธิตกแล้วก็หยุดร้องไห้เอง คือขาดการกำหนดติดต่อ สมาธิก็ตก อาจารย์สุทัศน์คิดมากเหมือนจะเป็นบ้า หลวงพ่อพูดก็ไม่ฟัง มาถึงบ้านนาเจริญ สภาวะตัวนี้ก็หายไป สภาวะนี้ถ้าไม่กำหนดติดต่อหรือหยุดชั่วคราว ไม่นานก็หาย ผู้ปฏิบัติมานานแล้ว สภาวะของญาณนี้จะแรง บางคนกลัวมาก มองดูต้นไม้ เห็นบนต้นไม้มีพวกเปรตเต็มไปหมดเหมือนฝูงลิงอยู่ดอนปู่เจ้าพนา ให้ถามต่อไปอีกว่า “เวลาเรานั่งไปกำหนดไป มีอาการสัปหงกมีอาการผงะไหม” การสัปหงกและผงะนี้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะกลัวตาย ถ้าเป็นเด็กมักจะร้องไห้คือการสัปหงกจะเกิดขึ้นในขณะที่เรานั่งไปๆ ใจของเราเร็วขึ้นๆ แล้วสัปหงกวูบลงไป มีหลวงปู่บ้านนาแวงเกิดอาการนี้ขึ้นแล้วร้องไห้ว่าผมเป็นโรคหัวใจ ญาณนี้ต้องค่อยปลอบโยน อย่าพูดดุด่า เวลาเกิดขึ้นอย่างแรงกล้า คล้ายๆ ผีมุดพรึบเข้าไปสู่ร่างกายแล้วกัดตับ กัดปอด ฯลฯ ของเรา ทำให้เราเจ็บตามร่างกาย เวลาผีมันจะออก ออกทางท้ายทอยแล้วก็ถีบเราให้หัวคะมำไปเลยก็มี สำหรับหลวงพ่อ บางทีเห็นหนู เป็นต้น กระโดดมุดฟุบเข้าสู่ร่างกาย กัดส่วนในร่างกายของเรา ทำให้เจ็บปวดบางครั้งทายาขี้ผึ้งไล่มันบ้าง มันก็ไม่ออก ส่วนมากพวกชอบปราบผีจะเป็น ขณะเราเดินไปขาจะกระทบกันตลอดเวลาถ้าญาณนี้เกิดชัดจะพิสดารมาก พวกเปรตยืนอยู่เป่าของเข้าไปสู่ร่างกายของเรา พวกเคยไล่ผีเวลานั่งอยู่จะมีเสียงซุบซิบพวกรำผีไถ้ผีแถน เวลาพูดมีแต่จะฟ้อนรำ พวกนี้จะผ่านได้ยากคิดว่าผีมารบกวนอยู่ตลอดเวลา
สรุป ได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ ตกใจง่ายและตื่นง่ายเหมือนจิตใจอ่อน ให้ได้ เพื่อนทำของตกเล็กๆ น้อยๆ ทำเสียงดังนิดหน่อยก็ตกใจแล้ว ส่วนสภาวะธรรมดาจะสัปหงกวูบลงไป แล้วคิดว่ามันจะไม่ตายไปหรือ ส่วนสภาวะที่มีมากที่สุด คือมีอาการร้อนตามตัว หวิวๆ หวามๆ เท่าที่สังเกตพวกผีไถ้ผีแถน เมื่อสภาวะแก้กล้าปฏิบัติไปนานๆ จึงจะเป็น พวกหลอกหลอนเพื่อนในเวลาปฏิบัติ อุปาทานจิตจะเกิดขึ้นในเวลาปฏิบัติ จะกลัวมาก สภาวะของหลวงพ่อเวลาเกิดจะชัดมาก เวลานอนเหมือนพวกเปรตมาดันที่ใต้เตียง ต้องให้เพื่อนมานอนใต้เตียง ยังไม่พอ เปรตยังกระโดดลงมาจากข้างบนอีก นั่งภาวนาไปมีแต่สิ่งจะมาทำร้าย เวลาปฏิบัติผ่านไปแล้วจึงค่อยรู้ว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะกรรมเก่าที่เราทำไว้ ญาณนี้เกิดไม่นานถ้ากำหนดติดต่อ บางทีกำหนดติดต่อ ๓๐ นาที ๑ ชั่วโมงก็หายได้ แต่ถ้าเราไม่กำหนดติดต่อ ก็เท่ากับเราดองไว้เป็น ๕-๖ วัน ก็ไม่หายก็มี เวลาไปปฏิบัติตามป่าตามเขาตามถ้ำ มีเสียงออกมาตามถ้ำเป็นหมู่ ๑๐๐ หมู่ ๑,๐๐๐ คล้ายจะออกมาทำร้ายเรา ถ้าเรากลัวไม่รู้จะไปพึ่งใคร ขอให้เรานึกถึงครูบาอาจารย์ แล้วเสียงนั้นก็หายไปเอง ความกลัวก็หายไป เมื่อความกลัวหายไปแล้ว เหมือนมีเพื่อนอยู่ด้วยเป็นร้อยเป็นพันเลย ถ้าสมาธิของเราตก สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดก็จะหายไปเอง
ภยตูปัฏฐานญาณ จบ