คำถวายดอกไม้ธูปเทียนสักการะ (วันวิสาขบูชา)

คำถวายดอกไม้ธูปเทียนสักการะ

(วันวิสาขบูชา)

        ยะมัม๎หะ  โข   มะยัง   ภะคะวันตัง  สะระณัง  คะตา, โย  โน  ภะคะวา สัตถา, ยัสสะ จะ  มะยัง  ภะคะวะโต  ธัมมัง  โรเจมะ ฯเปฯ

        สาธุ  โน  ภันเต  ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ  ญาตัพเพหิ  คุเณหิ  อะตีตารัมมะณะตายะ  ปัญญายะมาโน,  อิเม  อัม๎เหหิ   คะหิเต  สักกาเร  ปะฏิคคัณ๎หาตุ,  อัม๎หากัง   ทีฆะรัตตัง   หิตายะ  สุขายะ.

        เราทั้งหลายถึงซึ่งพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด  ว่าเป็นที่พึ่ง,  พระผู้มีพระภาคพระองค์ใดเป็นศาสดาของเราทั้งหลาย  แลเราทั้งหลายชอบใจซึ่งธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด, พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล  ได้อุบัติแล้วในหมู่มนุษย์ชาวอริยกะ  ในมัชฌิมประเทศ, พระองค์เป็นกษัตริย์โดยพระชาติ,  เป็นโคดมโดยพระโคตร,  เป็นศากยบุตร  เสด็จออกบรรพชาแล้วแต่ศากยสกุล,  เป็นผู้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ  ในโลกทั้งเทวโลก  มารโลก  พรหมโลก  ในหมู่สัตว์ทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์, พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นเป็นอรหันต์เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะเป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นสารถีแห่งบุรุษควรฝึกได้   ไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า   เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้มีโชคโดยไม่ต้องสงสัยแล,

        อนึ่ง  พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตรัสดีแล้ว  อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง  ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในใจตน อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน, และพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว  เป็นผู้ปฏิบัติเป็นธรรม  เป็นผู้ปฏิบัติสมควร คู่แห่งบุรุษสี่ บุรุษบุคคลแปด  นี่คือพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค  เป็นผู้ควรของคำนับ  เป็นผู้ควรของต้อนรับ  เป็นผู้ควรของทำบุญ  เป็นผู้ควรทำอัญชลี  เป็นนาบุญของโลก  ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า พระสถูป พระปฏิมานี้แล นักปราชญ์ได้อุทิศเฉพาะต่อพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สร้างไว้แล้วเพื่อระลึกถึง พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ด้วยทรรศนะแล้วได้ความเลื่อมใสแลสังเวช

        บัดนี้เราทั้งหลายมาถึง  กาลวิสาขปุณณมีอันเป็นที่รู้กันว่ากาลเป็นที่ประสูติ ตรัสรู้  และเสด็จปรินิพพาน  แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น (ถ้าวันอัฏฐมี  ให้เปลี่ยนข้อความที่ขีดเส้นใต้  เป็นกาลที่ครบ ๘ เบื้องหน้าแต่วันวิสาขปุรณมี  เป็นที่รู้กันว่ากาลเป็นที่ถวายพระเพลิงพระสรีระแห่งผู้มีพระภาคเจ้านั้น)  จึงมาประชุมกันแล้ว  ณ  ที่นี้ถือสักการะมีประทีปด้ามแลธูป เป็นต้น เหล่านี้  ทำกายของตนให้เป็นดังภาชนะรองรับเครื่องสักการะ ระลึกถึงพระคุณตามเป็นจริงทั้งหลาย  ของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น  บูชาด้วยสักการะอันถือไว้แล้วอย่างไร จักทำประทักษิณสิ้นวาระสามรอบ ซึ่งพระสถูปนี้  (ซึ่งพระปฏิมากรนี้)

        ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ขอเชิญพระผู้มีพระภาคเจ้า  แม้เสด็จปรินิพพานนานมาแล้ว  ยังปรากฏอยู่ด้วยพระคุณสมบัติอันข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  จะพึงรู้โดยความเป็นอตีตารมณ์  โปรดทรงรับซึ่งเครื่องสักการะ  อันข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายถือไว้แล้วนี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย  จนกว่าจะถึงพระนิพพานเทอญฯ

———————–