คำอุปโลกน์สังฆทาน
ยัคเฆ ภันเต สังโฆ ชานาตุ , ขอพระสงฆ์ทั้งปวงจงฟังข้าพเจ้า
บัดนี้ ทายก ทายิกา ผู้มีจิตศรัทธา ได้น้อมนำมาซึ่งภัตตาหารมาถวายเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ อันว่าสังฆทานนี้ ย่อมมีอานิสงส์ใหญ่ สมเด็จพระพุทธองค์จะได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นของภิกษุรูปใดรูปหนึ่งก็หามิได้ เพราะเป็นของได้แก่สงฆ์ทั่วสังฆมณฑล พระพุทธองค์ตรัสว่าให้แจกกันตามบรรดาที่มาถึง
ฉะนั้น บัดนี้ข้าพเจ้าจะสมมติตนเป็นผู้แจกของสงฆ์ พระสงฆ์ทั้งปวงจะเห็นสมควรหรือไม่เห็นสมควร ถ้าเห็นว่าไม่เป็นการสมควรแล้วไซร้ ขอจงได้ทักท้วงขึ้นในท่ามกลางสงฆ์อย่าได้เกรงใจ ถ้าเห็นว่าเป็นการสมควรแล้ว ก็จงเป็นผู้นิ่งอยู่ (หยุดนิดหนึ่ง) บัดนี้พระสงฆ์ทั้งปวงนิ่งอยู่ ข้าพเจ้าจักรู้ได้ว่าเป็นการสมควรแล้วจะได้ทำการแจกของสงฆ์ต่อไป ณ กาลบัดนี้
อะยัง ปะฐะมะภาโค มะหาเถรัสสะ ปาปุณาติ, ส่วนที่ ๑ ย่อมถึงแก่พระเถระผู้ใหญ่ผู้อยู่เหนือข้าพเจ้า
อะวะเสสา ภาคา อัม๎หากัง ปาปุณันติ, ส่วนที่เหลือจากพระเถระผู้ใหญ่แล้ว ย่อมถึงแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามบรรดาที่มาถึงพร้อมกันทุกๆ รูป (ตลอดถึงสามเณร, อุบาสกอุบาสิกาด้วย) เทอญ.
หมายเหตุ มะหาเถรัสสะ นั้น เปลี่ยนเป็น เถรัสสะ บ้าง มัชฌิมัสสะ บ้าง ตามฐานะของหัวหน้าในที่นั้นๆ ถ้าไม่มีสามเณร อุบาสกอุบาสิกาด้วยก็ไม่ต้องว่าต่อไปด้วย คำอุปโลกน์นี้เป็นหน้าที่ของรูปที่ ๒-๓ ก็ได้
———————–