สรุปวิธีการปฏิบัติ

สรุปวิธีการปฏิบัติ

           การเดินจงกรม ให้มีสติกำหนดพิจารณารู้อาการที่ยกเท้าขึ้นเหวี่ยงลง ถูกพื้น กำหนดพิจารณารู้อาการของเท้าที่เคลื่อนไหวให้ทันทุกขณะที่ย่างก้าว อย่าเผลอ

           การนั่ง ให้มีสติกำหนดพิจารณารู้ความเคลื่อนไหวทุกขณะของท้องว่า ต้นพอง กลางพอง สุดพอง ต้นยุบ กลางยุบ สุดยุบ อาการของท้องในปัจจุบันนั้นๆว่ามีอาการที่แท้จริงอย่างไร

           เวทนา เวทนาทุกอย่างที่เกิดขึ้นทางกายและทางใจ ที่เป็นเหตุให้จิตใจคลาดเคลื่อนจากปัจจุบันธรรม (คือ เวทนาปรากฏชัดมาก) ให้กำหนดพิจารณารู้อาการของเวทนานั้นๆ ให้ทันปัจจุบันธรรมทุกประการ

           จิต จิตที่คิดถึงอารมณ์ดี ร้าย ที่เป็นอิฏฐารมณ์ และอนิฏฐารมณ์ทั้งปวง ที่เป็นเหตุให้จิตใจเขว คลาดเคลื่อนไปจากปัจจุบันธรรมนั้นให้มีสติกำหนด พิจารณารู้ทุกขณะแห่งความคิดที่ผุดขึ้น (คือ พยายามกำหนดให้ทันมากเท่าที่จะมากได้)

           อิริยาบถย่อย เล็กๆ น้อยๆ จะต้องถือเป็นสิ่งสำคัญด้วยพยายามให้มีสติตามกำหนดพิจารณารู้อาการของ อิริยาบถนั้นๆ ให้ทันปัจจุบันธรรมตลอดเวลา

           เมื่อไม่มีอารมณ์อื่นมารบกวน (คือ ไม่มีอารมณ์อื่นที่ปรากฏชัด) ให้กลับมาภาวนาว่า “พองหนอ-ยุบหนอ” ต่อไป และเมื่อมีอารมณ์อื่นเกิดขึ้นก็ให้กำหนดรู้อารมณ์ต่างๆ ตามที่กล่าวมา แล้วนั้นไม่ให้ขาดช่วง ไม่ให้ขาดระยะ ไม่ให้มีระหว่าง ให้มีสติกำหนดพิจารณารู้สืบเนื่องติดต่อกันไป ตลอดเวลา เว้นไว้แต่เผลอหรือหลับ

           ให้เพิ่มการกำหนดทวารทั้ง ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อันเป็นช่องทางเดิน และเป็นบ่อเกิดของบาปธรรมทั้งหลาย มีกิเลสคือราคะ เป็นต้น และเป็นช่องทางเดิน เป็นบ่อเกิดของกุศลธรรม คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ตลอดถึงมรรค ผล พระนิพพาน

           ๑. เวลาตาเห็นรูป ให้ตั้งสติกำหนดพิจารณารู้ไว้ที่ตา ภาวนาว่า “เห็นหนอๆๆ”

           ๒. เวลาหูได้ยินเสียง ให้ตั้งสติกำหนดพิจารณารู้ไว้ที่หู ภาวนาว่า “ได้ยินหนอๆๆ”

           ๓. เวลาจมูกได้กลิ่นให้ตั้งสติกำหนดพิจารณารู้ไว้ที่จมูก ภาวนาว่า “กลิ่นหนอๆๆ”

           ๔. เวลาลิ้นได้รส ให้ตั้งสติกำหนดพิจารณารู้ไว้ที่ลิ้น ภาวนาว่า “รสหนอๆๆ”

           ๕. เวลากายถูกต้อง เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ให้ตั้งสติกำหนด พิจารณารู้ไว้ตรงจุดที่กายกระทบ ภาวนาว่า “ถูกหนอๆๆ”

           ๖. เวลาที่จิตเคลื่อนไหว (คือ มีความคิดเกิดขึ้น) ให้ตั้งสติกำหนดพิจารณารู้ไว้ที่หทัยวัตถุ (ที่ตรงหัวใจ) ภาวนาว่า “คิดหนอๆๆ”

           เวลาเดินจงกรม เดินระยะเดียว คือ

           ระยะที่ ๑ ขวา-ย่าง-หนอ ซ้าย-ย่าง-หนอ

           ให้เดิน ๓๐ นาที

           เวลานั่ง เป็น ๒ ระยะ คือ

           ระยะที่ ๑-๒ พอง-หนอ ยุบ-หนอ

           ให้นั่ง ๓๐ นาที

           เวลานอน เป็น ๒ ระยะ คือ

           ระยะที่ ๑-๒ พอง-หนอ ยุบ-หนอ

           ให้กำหนดพิจารณารู้เช่นนี้จนกว่าจะหลับไป

           หมายเหตุ เมื่อโยคีผู้ปฏิบัติกำหนดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ชัดเจนแล้ว อาการท้องพอง-ยุบ อาจจะไม่ปรากฏชัดเจนก็ได้ แต่ตรงกันข้าม เมื่อโยคีผู้ปฏิบัติสามารถกำหนดอารมณ์เหล่านี้ชัดเจน แจ่มแจ้งดีแล้ว ก็พึงรู้เถิดว่า สติของโยคีผู้ปฏิบัติสมบูรณ์พอสมควรแก่การจะเป็นไปเพื่อสมาธิ วิปัสสนาญาณ เพื่อบรรลุมรรค ผล พระนิพพาน ในเวลาอันไม่ช้าไม่นานข้างหน้านี้แน่นอน